20 กรกฎาคม 2567 ได้นัดกับแม่และน้องชายไปเดินเล่นที่ตลาดน้อย เจริงกรุงครับ จะว่าไปทริปนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว แน่นอนว่าหน้าที่ในหาข้อมูลการเดินทางและสถานที่ ข้าพเจ้าเป็นผู้ดูแลเองครับ 🙂

วันเข้าพรรษา พาแม่เดินเที่ยว ตลาดน้อย เจริญกรุง
วันนี้พาคณะมาเดินชิล ๆ ที่ตลาดน้อย ถนนเจริญกรุง

พวกเราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวโดยเริ่มต้นจากลำสาลี บางกะปิ และขึ้นทางด่วนจากถนนพระราม 9 มาลงด่านถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับสถานีรถไฟหัวลำโพงครับ เป็นความโชคดีว่าวันนี้การทางพิเศษเขาให้ลูกค้าใช้ทางด่วนได้ฟรีทั้งไป – กลับ เย้ ๆ จากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงไปใช้บริการที่จอดรถของวัดอุภัยราชบำรุง (วัดญวน ตลาดน้อย) ค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาทครับผม

สำหรับเพื่อนๆที่จะเดินทางด้วยรถ/เรือโดยสารสาธารณะ ข้อมูลตามนี้นะครับ
– รถเมล์สาย 1, 16, 45, 35, 36, 75, 93
– เรือ เรือด่วนเจ้าพระยา ท่าเรือสี่พระยา
อ้างอิง : https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2022/content/34391

ก่อนที่จะไปรับชมภาพขอเล่าสั้น ๆเกี่ยวกับ ตลาดน้อย นิดนึงครับ ชุมชนตลาดน้อยเป็นความผสมผสานวัฒนธรรมไทย-จีนครับ ส่วนตัวรู้สึกค่อนข้างชัดถึงความ Contrast กันระหว่างความเป็นย่านค้าขายกับความเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ด้วยความที่ชุมชนเค้าก็อยู่อาศัยและประกอบอาชีพค้าขายกันเป็นปกติอยู่แล้วพอมีความเป็นบรรยากาศท่องเที่ยวแทรกเข้าไปก็รู้สึกว่ายังไม่ค่อยกลืนแต่ก็ดูเป็นธรรมชาติ (ย้อนแย้งแฮะเรา) คนในชุมชนก็ใช้ชีวิตตามปกติ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายอะไหล่เซียงกง ร้านซ่อมรถ ซึ่งก็จะมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์วิ่งไปมาปน ๆกับน้กท่องเที่ยวที่เดินตระเวนถ่ายครับ

ด้วยความที่ชุมชมตลาดน้อยมีตัวอาคารเก่าที่ยังคงความคลาสิก ที่นี่จึงมีความน่าสนใจ และเพื่อให้ที่นี่ตอบรับกับผู้ที่ชอบการท่องเที่ยว อาคารหลายแห่งจึงถูกรีโนเวตให้เป็นร้านค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร เหมาะแก่การเข้าไปนั่งรับบรรยากาศ พร้อมถ่ายรูปสวย ๆ แน่นอนคนในชุมชนก็ให้ความร่วมเป็นอย่างดี สังเกตได้ว่าที่นี่กำลังมีการก่อสร้าง ปรับปรุงอาคารเดิมอยู่หลายจุด คิดว่าต่อไปน่าจะมีสถานที่สวย ๆเพิ่มขึ้นและนักท่องเที่ยวน่าจะเยอะขึ้นกว่านี้แน่นอนครับ

เอาล่ะ เล่าพอหอมปากหอมคอ มาดูรูปกันดีกว่าครับ

วงรอบบริเวนจุดที่เดินเที่ยวในตลาดน้อย
อันนี้ผมตีเส้นกำหนดขอบเขตพื้นที่เดินเที่ยวคร่าว ๆ แนะนำว่าถ้าจะเริ่มเดินให้เข้าซอยเจริญกรุง 20 นะครับ เดินไปเรื่อย ๆ เพลิน ๆไม่ต้องกลัวว่าจะหลงเพราะเส้นทางจะบังคับให้เราเดินอย่างถูกต้อง
เมนูข้าวหน้าเป็ด ภัตตาคารกวานสิ่วกี่
ด้วยความที่คณะบอกว่าหิว (ส่วนผมอิ่มอยู่) ก็เลยต้องแวะร้านร้านที่ใกล้ที่สุด เป็นร้านเป็ดย่าง ชื่อภัตตาคารกวานสิ่วกี่
สั่งติ่มซ้ำมากินนิดหน่อย ยอมรับว่าอร่อยจริงครับ
กินอิ่มก็มีแรงเดิน
ร้านชิค ๆ ชิล ๆ แนวนี้มีอยู่หลายร้าน
เข้าซอยเจริญกรุง 20 ก็เจอร้านขายอาหารตั้งรองเป็นแถวเลย ฮาา คือถ้าเราไม่อยากแวะกินที่ร้านใดร้านหนึ่ง ก็สามารถซื้ออาหารกินระหว่างเดินเที่ยวก็ได้ มีของอร่อยราคาโอเคเยอะเลยนะ อ้อ แนะนำให้เตรียมเงินสดไปด้วย เพราะบางร้านเค้าไม่ร้บโอนเด้อ
อย่างที่บอกครับว่าที่นี่เป็นย่านการค้า และธุรกิจหลักเค้าคือ เซียงกง ครับ
มาถึงซอยที่เค้าเดินเที่ยวกันแล้ว จุดนี้สังเกตเห็นง่ายมากครับ เพราะคนเยอะ ฮาา
ได้ยินมาว่าภาพกราฟฟิตี้บนกำแพงเค้าเปลี่ยนกันบ่อยนะครับ สวย ๆ ทั้งนั้นเลยนะ
เป็นชุมชนที่พยายามสร้าง Identity ให้คมชัดที่สุด ขนาดว่าฝาท่อยังเป็นชื่อ ตลาดน้อย เลยครับ
บ้านบางหลังก็ไม่มีผู้อยู่อาศัย น่าจะรอการรื้อถอน หรือไม่ก็รอคนมารีโนเวตครับ
อันนี้ทางส่วนบุคคล แต่ป้ายและปากทางชวนให้ถ่ายรูปจัง ฮาา
อ้าว ถ่ายรูปเพลินไปหน่อย กลุ่มนั้นเค้าเดินนำไปไกลแล้ว
อันนี้น่าจะเป็นกราฟฟิตี้ของบริษัทโครงข่ายมือถือเจ้าใหญ่ครับ
สามล้อถีบแบบนี้ผมเคยถีบนะ จัดว่ายาก พาเราลงข้างทางหลายรอบอยู่เหมือนกัน การถีบต้องออกแรงเยอะจึงไม่ค่อยง่ายเหมือนถีบจักรยาน
บางช่วงของเส้นทางก็ดูแคบนิดนึง
ประตูบ้านโซวเฮงไถ่ คนสร้างบ้านหลังนี้ชื่อพระอภัยวานิช (เจ้าสัวจาด) เดี๋ยวเข้าไปดูด้านในครับ
ถ่ายต้นไม้ก่อนเลย ตรงกลางของพื้นที่บ้านหลังนี้เป็นสระว่ายน้ำครับ ที่นี่เค้าเปิดสอนดำน้ำด้วยนะ
เคยอ่านในรีวิว เห็นว่าด้านบนสวยงามมาก พอดีรีบเลยไม่ได้จองคิวรอดูครับ
สระสอนดำน้ำครับ
โอ๊ะ เจอน้องแมวมากินน้ำในบ่อบัวข้างสระด้วย
ออกจากบ้านโซวเฮงไถ่เห็นกราฟฟิตี้นี้สวยดีถ่ายเก็บภาพไว้ซะหน่อย
จุดเช็คพอยด์ถ่ายภาพครับ รถเฟียตโบราณ
ด้านหน้าบางร้านเค้าก็แต่งเต็มเหมือนกันนะครับ
ที่นี่มีโรงแรมและโฮสต์เทลไว้รองรับนักท่องเที่ยวนะ เผื่อท่านใดอยากมาพัก บางที่ก็ได้เห็นวิวสวยด้วย
เหมือนคณะจะสงสัยว่าด้านในคืออะไร
อ้อ เป็นคาเฟ่นี่เอง บรรยากาศน่านั่ง แต่ลูกค้าเต็มร้านเลยครับ ไปต่อดีกว่า ฮา
ครั้งนี้ผมเดินแซงบ้างแล้ว ฮาา บ้านที่อยู่ด้านหลังสวยถูกใจดี พบว่ามีบ้านทรงนี้อยู่หลายหลังครับ แต่บางหลังก็เหมือนจะยังรอการรีโนเวต
ตอนนี้เดินมาถึงท่าน้ำภานุรังษีครับ
ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นสมาคมเผยแผ่คุณธรรม เต็กก่า จีจินเกาะ
ตรงจุดที่เรายืนดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยายังเป็นที่ตั้งของ พิพิธตลาดน้อย ด้วยนะครับ
แวะเข้าไปดูที่มาที่ไปของชุมชนแห่งนี้สักหน่อย ชมพิพิธภัณฑ์ฟรีนะครับ
นอกจากได้ความรู้แล้วยังมีมุมสวย ๆให้ถ่ายรูปด้วยนะ
วิวชั้นสองของพิพิธตลาดน้อย มองเห็นวิวต้นไม้และแม่น้ำเจ้าพระยาครับ
ด้านในของพิพิธตลาดน้อยครับ
ออกจากพิพิธตลาดน้อยแล้ว เป้าหมายสุดท้ายของทริปนี้คือ โบสถ์แม่พระลูกประคํา กาลหว่าร์ ในภาพนี้เป็นวิวข้างทางระหว่างที่กำลังเดินไปครับ
สถานปัตยกรรมบางแห่งก็ดูแปลกตาดีเหมือนกัน
พอมาถึงหน้าวิทยาลัยสารพัดช่างสี่พระยา ฝนท่านก็ตกซะงั้น
เดินไปอีกหน่อยเจอตึกสำนักงานของกรมเจ้าท่า แวะเข้าไปหลบฝนและเข้าห้องน้ำสักหน่อย
ใต้อาคารเหมือนจะมีจุดแสดงพิพิธภัณฑ์ของกรมเจ้าท่า แต่คณะไม่ได้แวะชมครับ
บางอาคารของกรมเจ้าท่าเค้าก็สร้างมาสวยจริง ๆ ตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งโน้นคือไอค่อนสยามครับ
ฝนเริ่มเบาบาง ทว่า โบสถ์แม่พระลูกประคำ กาลหว่าร์ ยังไม่ถึงเวลาเปิดให้เข้าชม พี่เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าโบสถ์เปิด 17.00 น. แต่เราไปถึง 16.00 น. เลยไม่อยู่รอ เพราะต้องไปที่อื่นต่อครับ เสียดาย ๆ
ระหว่างเดินกลับไปที่จอดรถ
บางร้านเค้าแต่งสวยนะ น่าเข้าไปนั่งมาก ไว้รอบหน้าครับ
นักท่องเที่ยวสองท่านนี้กำลังถ่ายภาพอยู่พอดี เราเลยถือโอกาสแอบเก็บภาพมาด้วย
มาถึงที่ฝากรถตรงวัดญวนแล้ว พระท่านทำวัตรเย็นพอดี ได้เข้าไปนั่งฟังไม่นาน เป็นการทำวัตรเย็นของพระเวียดนาม ทำนองการสวดคล้ายพระจีนครับ

และทริปนี้ก็จบลงด้วยดีนะครับ แม่และน้องมีความชื่นชอบพอสมควร เพื่อน ๆ ท่านใดจะตามก็ลองอ่านรีวิวของบทความอื่นเพิ่มเติมด้วยเด้อ เผื่อจะได้แนวทางและไอเดียในการเดินเที่ยวครับผม

Comments

comments

Comments are closed.