ซิตี้รันครั้งนี้ใช้เส้นทางวิ่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์ที่วิ่งผ่าน 14 ป้อมปราการเก่าของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ด้วยลักษณะของแนวเส้นที่ขีดลงบนแผนที่จึงเรียกเส้นทางนี้ว่า “เส้นทางธนูง้างสาย

เส้นทางพระสุเมรุ หนึ่งในเส้นทาง ธนูง้างสาย ที่มีสถาปัตยกรรมสวย ๆเรียงรายอยู่ข้างทาง

เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ได้มีเวลาเพียงพอให้ได้แวะสำรวจป้อมปราการแต่ละแห่งว่ายังเหลืออะไรให้พอได้ศึกษาบ้าง กอปรกับเช้าวันนี้ตั้งใจมาวิ่งซิตี้รันเป็นหลัก จึงไม่มีเวลาเพียงพอเพื่อการนี้ครับ คงต้องหาโอกาสกลับมาซ้ำเพื่อเดินดูร่องรอยประวัติศาสตร์อย่างตั้งใจครับผม

เส้นทางวิ่ง ธนูง้างสาย ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทความ 14 ป้อมปราการบนเส้นทางธนูง้างสายของเพจ Bangkok I Love You ตามลิงก์นี้ครับ https://www.facebook.com/share/p/TxY1se4UfSMZb1d5/ ท่านใดสนใจก็กดเข้าไปอ่านกันได้

อันนี้เป็นลำดับเส้นทางการวิ่งนะครับ ซึ่งเราจะเริ่มตรงจุดไหนของเส้นทางก่อนก็ได้ขอแค่วิ่งมาบรรจบกันก็พอครับ

  • เราเริ่มจากป้อมมหากาฬ วิ่งไปบนถนนพระสุเมรุตรงไปยังป้อมพระสุเมรุ
  • เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระอาทิตย์ ลอดสะพานพระปิ่นเกล้าเข้าประตูธรรมศาตร์ (หน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา)
  • วิ่งเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วทะลุออกประตูทางฝั่งท่าพระจันทร์
  • วิ่งเข้าถนนมหาราชผ่านมาทางด้านหลังมหาวิทยาลัยศิลปากร จนถึงวัดพระแก้วบริเวณท่าช้าง
  • วิ่งขนาบกับแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ (ข้างวัดพระแก้ว) ไปจนถึงถนนท้ายวังซึ่งเป็นทางลงไปท่าเตียน
  • วิ่งผ่านด้านหลังวัดโพธิ์ต่อมายังถนนจักรเพชรผ่านปากคลองตลาด จนไปสุดตรงเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า
  • แวะชมสวนลอยฟ้าเจ้าพระยาแพ้พนึง แล้ววิ่งเข้าถนนจักรเพชรผ่านพาหุรัด ผ่านเมก้าพลาซ่าสะพานเหล็ก เข้าสู่ถนนมหาไชย
  • วิ่งไปจนสุดถนนมหาไชยก็กลับมาที่จุดเริ่มต้นคือป้อมมหากาฬ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรครับ
แผนที่การวิ่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ด้วยเส้นทางธนูง้างสาย

13 กรกฎาคม 2567 เช้านี้ตื่นขึ้นมาเร็วสักหน่อย ทำกิจวัตรประจำวัน ยืดเหยียดคลายกล้ามชุดใหญ่ก่อนจะออกมารอโดยสารรถเมล์สาย 60 รถเมล์สายนี้วิ่งจาก สวนสยาม ปลายทางคือ MRT สนามไชย ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ครับ

ตอนเช้าวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ การเดินทางด้วยรถเมล์ในกรุงเทพฯ ประหยัดและสะดวกดีครับ

ใช้เวลาเดินทางจากบางกะปิถึงแยกผ่านฟ้ากินเวลาราว 40 นาที จุดนี้คือถนนราชดำเนินป้ายหน้านิทรรศรัตนโกสินทร์ จากนั้นก็เดินย้อนกลับไปที่ป้อมมหากาฬเพื่อที่จะเริ่มต้นวิ่งครับ

บรรยากาศถนนราชดำเนินเช้านี้เงียบสงบดี อากาศก็เย็นเพราะเมื่อคืนฝนตก

Start จากป้อมมหากาฬวิ่งเข้าถนนพระสุเมรุตรงด้านข้างหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พบว่าถนนเส้นนี้มีเครื่องจักรหนักกำลังก่อสร้าง ไม่แน่ใจว่าเป็นโครงการเกี่ยวกับอะไรนะครับ เราก็วิ่งเลาะบนฟุตบาทไปเรื่อย ๆ ตั้งเป้าที่ปลายทางแรกคือสุดถนนพระสุเมรุ ซึ่งตรงนั้นจะเป็นที่ตั้งของป้อมพระสุเมรุครับ

โครงการก่อสร้างมีหลุมลึกตรงกลางถนน ฝั่งตรงข้ามคือ ห้องอาหารนิวออร์ลีนส์ ทรงคลาสิกดีครับ

แม้จะมีการก่อสร้างแต่ถนนพระสุเมรุตอนเช้าก็บรรยากาศดีใช้ได้เลยทีเดียว ระหว่างเส้นทางวิ่งมีของกินมาขายตามรายทางอยู่พอสมควร ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรค์กับการวิ่งเลยนะครับ ส่วนตัวคือไม่ได้วิ่งเพื่อทำความเร็วอยู่แล้ว ดังนั้นบางช่วงของเส้นทางจึงเลือกที่จะเดินดีกว่าครับ

บ้านคุณเชิด วิริยะพานิช

ผ่านแยกถนนดินสอตัดกับถนนพระสุเมรุ ตรงนี้มีร้านกาแฟขายตรงหัวมุม หน้าร้านสวยน่าแวะเหมือนกัน

ตั้งข้อสังเกตว่ามีการบรูณะทางม้าลายใหม่หลายจุดบนถนนของเกาะรัตนโกสินทร์

วิ่งผ่านวัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร แสงลงตรงเจดีย์พอดี มองด้วยตาเปล่าสวยงามกว่าในภาพนี้เยอะครับ

ช่วงเช้าเป็นเวลาที่พระท่านออกมาบิณฑบาต เห็นญาติโยมมาใส่บาตรกันเยอะ

จะว่าไปรอบถนนเส้นพระสุเมรุเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาใส่บาตรเช้าจริง ๆครับ ปกติไม่ค่อยได้เห็นพระในกรุงเทพฯเดินเป็นแถวแบบนี้ ที่เห็นส่วนใหญ่จะเห็นเดินเดี่ยวหรือไม่ก็มากับเด็กวัด

รู้สึกแปลกตากับการเดินเป็นแถวของพระท่าน

ไม่นานก็วิ่งมาถึงป้อมพระสุเมรุครับ เป็นป้อมที่สวยมากจริง ๆ ที่น่าสนใจคือด้านข้างมีสวนสาธารณะ เลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย

ค่อนข้างสมบรูณ์ทีเดียวสำหรับ ป้อมปราการพระสุเมรุ แห่งนี้

สุดเส้นทางถนนพระสุเมรุแล้ว เลี้ยวซ้ายด้านหน้าจะมุ่งไปต่อยังถนนพระอาทิตย์ครับ จำได้ว่าตรงมุมอาคารสีแดงนี้เคยมากินโรตีมะตะบะ ไม่รู้เค้าจะยังเปิดขายอยู่หรือเปล่านะครับ ไม่ได้มานานแล้ว

ตอนเช้า ๆร้านค้าตรงมุมถนนพระอาทิตย์ยังไม่เปิด ถนนก็รถน้อย ดูสวยสงบดีเหมือนกัน

อย่างที่เรียนให้ทราบว่าด้านข้างป้อมพระสุเมรุมีสวนสาธารณะ ชื่อของที่นี่คือ สวนสันติชัยปราการ เราจึงถือโอกาสแวะเข้าไปพักกายพักใจสักหน่อย ตรงนี้มีวิวสวย ๆของสะพานพระราม 8 และแผ่นน้ำเจ้าพระยาให้ดูฟรีครับ

สวนสันติชัยปราการ

โรงแรมที่พักก็ตกแต่งให้เข้ากับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของพื้นที่

ตลอดเส้นทางการวิ่งจะพบเห็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแนว ๆนี้เยอะเลยครับ

อย่างหนึ่งที่น่าเสียดายคือ สายเคเบิ้ลหรือสายสัญญาณ พันกันยุ่งอยู่หน้าอาคาร ถ้าเอาออกไปได้จะแจ่มมาก

แอบเห็นเจ้าตูบสองตัวนอนอยู่หน้าอาคาร ถนนพระอาทิตย์เป็นที่เดียวที่พบน้องหมาครับ

ตอนนี้วิ่งเข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วครับ ที่นี่ประตูเค้าเปิดเวลา 05.00 น. เราสามารถวิ่งผ่านเข้าไปแล้วออกประตูอีกฝั่งตรงท่าพระจันทร์ได้เลยครับ

ไม่แน่ใจว่าซากสิ่งปลูกสร้างดั้งเดิมที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเรียกว่าอะไรนะครับ

แวะเข้าไปดูด้านหลังศูนย์อาหารของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งตอนนี้น่าจะราว ๆเจ็ดนาฬิกาเห็นบางร้านเค้าเปิดขายอาหารแล้ว ท่านใดหิวข้าวก็จัดเลยครับ สะดวกดี มีห้องน้ำพร้อม อ่อ ถ้าเราเดินมาตรงริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะมองเห็นวิวสวยทางฝั่งโรงพยาบาลศิริราชพอดีครับ

วิวด้านหลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

น้อนถามว่าพี่ถ่ายอะไรวะคะ

น่ารัก

มีโอกาสผ่านมาแล้วก็แวะไปไหว้ท่านครับ

ท่านปรีดี พนมยงค์

ถ้าง่วงก็ไปนอนต่อเถอะลูก

สงสัยดูบอลดึก

มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้

ลานโพธิ์

ทางเข้า ท่ามหาราช รู้สึกเหมือนจักรยานเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนไหม แต่ก็ดูสวยไปอีก

ท่ามหาราช สถานที่ดื่มกินและดูวิวริมเจ้าพระยา

ด้านหลัง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร วัดนี้ผ่านบ่อยแต่ไม่ค่อยได้แวะเข้าไปครับ น่าจะเพราะอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น เช่น วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดอรุณ ท่าช้าง ท่าเตียน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นต้น

ด้านหลังวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร

ประตูด้านหน้าของอาคารพาณิชย์ทรงสวยตรงท่าช้างแห่งนี้ยังไม่เปิดใช้ครับ เหมือนจะยังปรับปรุงไม่เรียบร้อย

สวยดีเหมือนกัน รอเค้าเปิดใช้

น่าจะเป็น Golden Place ที่สวยที่สุดแล้วล่ะครับ

Golden Place ท่าช้าง

ถนนด้านหน้าวัดพระแก้วมรกต เหมือนจะไม่เปิดให้รถวิ่งผ่านนะครับ เข้าใจว่าสงวนพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเท้า

ถนนด้านหน้าวัดพระแก้วมรกต

กระรอกแถวสนามหลวงเชื่องมากครับ ได้ยินว่ามีนักท่องเที่ยวยื่นอาหารให้ จากนั้นพอเค้าเห็นคนยืนดู ก็วิ่งมาหาเพราะเข้าใจว่าเราจะให้อาหาร อย่างไรก็ระมัดระวังนิดนึง

ชื่อจริงของน้องคือ กระรอกหลากสี สถานะปัจจุบัน แถวสนามหลวงเยอะมากกก

กำแพงของพระบรมมหาราชวังฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยาครับ

จะว่าไปไม่เคยเห็นนักท่องเที่ยวออกประตูนี้เลย มีแต่เจ้าหน้าที่เค้าเข้าออกกัน

ป้อมในรัวของพระบรมมหาราชวัง จุดนี้เป็นสามแยกที่ถนนมหาราชมาพบเจอกับถนนท้ายวัง

ดูโดดเด่นดีเหมือนกันครับ เป็นมุมที่ติดกับท่าเตียนและวัดโพธิ์ ตรงนี้ถ่ายรูปสวยดี

พอพ้นกำแพงพระบรมมหาราชวังก็จะผ่านป้ายถนนท้ายวังแต่เรายังวิ่งอยู่บนถนนมหาราชนะครับ ด้านซ้ายวัดโพธิ์

วัดโพธิ์ตอนเช้ากับตอนกลางวันต่างกันเยอะเลย นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน

อาคารพาณิชย์ที่มีสถานปัตยกรรมดั้งเดิม จังหวะในต้องเช้าแสงเข้าพอดีครับ ยืนดูเพลินจนลืมไปว่าต้องวิ่งต่อ

อาคารพาณิชย์ ณ บริเวณทางเดินลงไปท่าเตียน

ถ่ายตรงนี้เก็บไว้อีกสักภาพ ชอบอาคารแนว ๆนี้มาก เท่าที่สังเกตพบว่ามีคนที่มาวิ่งออกกำลังกายกันอยู่พอสมควร แต่ไม่แน่ใจว่าเราวิ่งเส้นเดียวกับเราหรือเปล่า

อาคารพาณิชย์ ณ ทางลงไปท่าเตียน

กระเบื้องที่ปูบนทางเท้าก็ดูสวยนะ อยากให้เป็นแบบนี้ทั้งกรุงเทพฯจัง

ร้านค้าส่วนใหญ่ยังไม่เปิด จะมีเป็นบางร้านที่ขายอาหารเช้าครับ

วิ่งผ่านด้านหลังวัดโพธิ์ พยายามจะหามุมถ่ายภาพมหาชน แต่หาไม่เจอ ถึงเจอก็คงจะไม่สวยเท่าถ่ายตอนเย็นเพราะย้อนแสงครับ

ด้านหลังวัดโพธิ์

เลี้ยวขวาลงไปดูท่าน้ำ ตั้งใจว่าจะไปถ่ายรูปวัดอรุณครับ ตรงนี้เหมือนจะยังก่อสร้างไม่เสร็จ

ท่าเรือกำลังก่อสร้าง ไม่แน่ใจว่าท่าอะไรนะครับ

ได้ภาพวัดอรุณยามเช้ามา 1 ภาพ ก่อนหน้านี้แอบเห็นเพื่อน ๆถ่ายพระปรางค์ยามเย็นมามาสวยมาก ก็อยากหาเวลาไปนั่งรอพระอาทิตย์ตกดินเหมือนกันนะครับ

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

สิ้นสุดถนนมหาราชกำลังจะข้ามสะพานเจริญรัช 31 ก็เห็นว่ามีจักรเช่าสำหรับนักท่องเที่ยวตรงปากทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้า MRT สนามไชย

จักรยานให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว

ก่อนที่จะวิ่งเข้าสู่ถนนจักรเพชรเพื่อไปต่อยังปากคลองตลาดก็สังเกตเห็นสถาปัตยกรรมตรงราวสะพานเจริญรัช 31 ทราบภายหลังว่าสะพานนี้สร้างสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งที่ท่านพระชนมายุครบ 31 พรรษาครับ

ราวสะพานเจริญรัช 31

เข้าสู่ถนนจักรเพชรผ่านปากคลองตลาดแล้วครับ ดูฟุตบาทสิ สวยงามแปลกตาเลยทีเดียว

ปากคลองตลาดยังครึกครื้นเหมือนเดิม

มีไม้ดอกไม้ประดับสวย ๆราคาดีไว้ลูกค้าเสมอครับ เมื่อครู่วิ่งผ่านกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย เข้าว่าที่นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คพอยด์ของพวกเค้าเหมือนกัน

ไม้ดอกไม้ประดับสด ๆสวย ๆ

รถเมล์สาย 8 ในตำนาน ท่านใดอยากนั่งรถเมล์ยาว ๆนาน ๆแนะนำสายนี้ครับ

สาย 8 เป็นน่าจะเป็นรถเมล์ที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลบ่อยที่สุด

ตอนจะข้ามถนนจากปากคลองตลาดเพื่อมาที่พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ อยากให้ระวังตอนข้ามถนนให้ดี ๆครับ เพราะรถวิ่งวนลงมาจากสะพานค่อยข้างเร็ว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย แนะนำว่าควรเปลี่ยนตำแหน่งการข้ามไปอยู่ตรงก่อนถึงสามแยกถนนตรีเพชรน่าจะปลอดภัยกว่าครับ

พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ไหน ๆก็มาแล้วแวะไปชมวิวที่ สวยลอยฟ้าเจ้าพระยา ดูสักหน่อย แนะนำให้เข้าทางสวนสาธารณะพระปกเกล้านะครับ เข้าไปก็ถามเจ้าหน้าที่ กทม. หรือคนแถวนั้นได้ว่าขึ้นตรงไหน

ทางเดินขึ้นสวยลอยฟ้าเจ้าพระยา

วิวจากสวนลอยฟ้าเจ้าพระยาครับ ลมตอนเช้าเย็นสบายแบบนี้อยากนั่งยาวกันเลย

วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา

วิ่งลงจากสวนลอยฟ้าเจ้าพระยาเข้าไปในถนนจักรเพชร์ผ่านด้านหน้า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จริง ๆด้านหลังอาคารนี้คือคลองโอ่งอ่าง เผื่อท่านใดจะแวะไป

สถานปัตยกรรมอาคารสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

ผ่านสามแยกตลาดพาหุรัด บรรยากาศเงียบ ๆแบบนี้ไม่คุ้นเท่าไหร่

แยกตลาดพาหุรัด

อย่างที่เรียนให้ทราบตั้งแต่ตอนต้นว่ามีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ และพบว่าโครงการนี้นอกจากจะมีที่ถนนพระสุเมรุแล้ว ถนนจักรเพชรและถนนมหาไชยก็กำลังมีก่อสร้างอยู่เช่นกันครับ คิดว่าน่าจะเป็นโครงการเดียวกัน ตรงนี้อาจจะไม่สะดวกนิดหน่อยแต่เราก็สามารถวิ่งบนฟุตบาทได้

โครงการก่อนสร้างบนถนนจักรเพชร

เมื่อครู่วิ่งผ่านหน้าร้านผัดไทยประตูผี พบว่ามีลูกค้าชาวต่างชาติมานั่งรอกันเยอะเลย และตอนนี้ก็ได้วิ่งมาถึงสวนสาธารณะป้อมมหากาฬแล้ว แถวนี้ยังมีชุมชนอยู่กันหนาแน่นเหมือนเดิมนะครับ

ชุมชนใกล้สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ

บรรยากาศภายในสวนสาธารณะป้อมมหากาฬ น่ามานั่งพักผ่อนมากครับ

สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ

ด้านหลังของสวนสาธารณะฯอยู่ติดกับคลองที่แยกมาจากคลองแสนแสบตรงสะพานผ่านฟ้า จากจุดนี้เราสามารถเข้าไปแวะชมวิวบนเจดีย์วัดภูเขาทองได้ครับ (อ่อ ตอนนี้วัดภูเขาทองเค้าปิดบูรณะอยู่เด้อ)

คลองสะอาดดีนะ ไม่มีขยะเลย

จบการวิ่ง และวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น ณ ป้อมมหากาฬครับ เริ่มวิ่งตั้งแต่ 06.16 น. ตอนนี้แปดนาฬิกานิด ๆ เวลากำลังดีเลยนะ ตอนนี้เดินข้ามถนนหลานหลวงเพื่อมารอรถเมล์สาย 60 กลับทุ่งบางกะปิ ป้ายรถเมล์จะอยู่เยื้อง ๆพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวครับ

อาคารพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ เส้นทางวิ่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์ด้วย เส้นทางธนูง้างสาย หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งและนักเดินนะครับ อันที่จริงแล้วเส้นทางนี้ควรเป็นเส้นทางเพื่อการเดินท่องเที่ยว แต่ถ้าท่านใดอยากจะวิ่งก็ไม่ถือว่ายากเท่าไหร่ครับ แต่ต้องระวังเพื่อนร่วมทางเท้านิดหน่อย วิ่งช้า ๆปลอดภัย ไม่ชนคนอื่นครับ

Comments

comments

Comments are closed.