กว่าจะกลับจากหนองผักชีถึงที่พักที่ลำตะคองก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า ระหว่างทางเดินกลับสองข้างทางมืดมากๆ ผิดจากขาไปคนละเรื่อง สักพักก็มีรถบริการส่องสัตว์ของอุทยานฯวิ่งตามหลังพวกเรามาเป็นขบวน
Category Archives: ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
รอยยิ้มและลิ่มเลือด Tropical rain forest เขาใหญ่ ตอนที่ 5
กว่า 3 กิโลที่เราต้องเดินไปสู่เป้าหมาย ณ หอส่องสัตว์หนองผักชี ระหว่างทางพวกเราโดนทากไล่เกาะไล่ดูดอีกรอบแม้จะไม่มากนักเพราะอยู่บนถนนลาดยาง จะหนักหน่อยก็แต่เจ้าปุกปุยเพื่อนผม คงจำกันได้ใช่ไหมครับตอนที่พวกเราเจอแม่กวางสาวระหว่างทางเมื่อEntryที่แล้ว ปุกปุยเค้าลุยหญ้าข้างทางเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆแม่กวาง ยืนอยู่ประมาณ 5 นาทีได้ พอกลับออกมาอีกครั้งพี่ทากของเราก็เกาะขานายปุกปุยมาเป็นพวงเลยล่ะครับ เด็ดออกตั้งนานกว่าจะหมด สงสัยปุกปุยเค้าคงจะเดินเข้าไปเหยี่ยบวังทากเข้าให้แล้วกระมังครับ ฮ่าๆ
รอยยิ้มและลิ่มเลือด Tropical rain forest เขาใหญ่ ตอนที่ 4
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงกันเสร็จคณะทริปก็มานั่งคุยกันถึงจุดหมายที่จะไปเที่ยวกันต่อ ผมเสนอว่าเราน่าจะไปหอดูสัตว์หนองผักชี เนื่องจากวิวที่นั่นค่อนข้างสวยงามในหน้าฝน แต่เราจะต้องเดินเท้ากว่าสามกิโลเมตร ซึ่งทุกคนตกลง แต่ก่อนอ่านเราน่าจะเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ในที่ทำการอุทยานฯกันก่อน
รอยยิ้มและลิ่มเลือด Tropical rain forest เขาใหญ่ ตอนที่ 3
จากจุดเริ่มต้นของการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ณ อ่างเก็บน้ำมอสิงโต คณะเดินป่าทั้ง 6 ชีวิตก็เริ่มออกเดินกัน เนื่องจากฝนที่ตกก่อนหน้านั้นทำให้เส้นทางที่เคยเป็นทางดินตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นล่องน้ำขนาดเล็กแทน การเดินขี้นเขาที่เป็นทางดินลื่นๆแม้จะเป็นภูเขาเตี้ยๆแต่ก็ทำให้การเดินยากอยู่ไม่น้อยครับ
พวกเราเดินขึ้นเขามาไกลพอสมควรไม่นานก็มาถึงจุดที่เรียกว่าจุดพักซึ่่งก็คือบริเวณยอดเขานั่นเองครับ เดิมทีคณะตั้งใจว่าจะพักสักนิดนึง แต่ก็ไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ เพราะมีแมลงมารบกวน เป็นแมลงดูดเลือดซะด้วย แถวบ้านผมเรียกพวกมันว่า เหลือบ
รอยยิ้มและลิ่มเลือด Tropical rain forest เขาใหญ่ ตอนที่ 2
แม้เมื่อคืนฝนจะตกตลอด แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค์ต่อพวกเรามากนัก น้องๆและนายปุยเพื่อนของผมต่างสนทนาพูดคุยกันอย่างออกรส ทั้งที่ไม่เคยได้พบปะพูดคุยกันมาก่อน จะมีก็แต่เจ้าโลมาที่เคยพูดคุยกับปุยบ้างทางmsn และก็คุยกันนิดหน่อยในร้านอาหาร ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของทั้งสองคนครับ เนื่องจากอาชีพและสายงานใกล้เคียงกัน
ใต้ผ้าใบที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝน ทุกคนต่างนำเสนอและแสดงความคิดเห็นในเรื่องราวต่างๆที่ตนเองเคยประสบ บ้างก็เป็นเรื่องเดียวกัน บ้างก็เป็นเรื่องใหม่ ผมว่ามันเป็นภาพที่ดูดีทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่น นายบิ่นไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่านายไก่ลูกน้องในทีม จะเคยผ่านการเกณฑ์ทหารเหมือนกับตน แถมยังเป็นทหารเกณฑ์รุ่นพี่ซะด้วย(เพราะเกณฑ์ก่อน ฮาๆ)
กว่าจะเข้าเต้นท์นอนก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนแล้วล่ะครับ กระนั้น ฝนเจ้าก็ยังคงตกต่อจนถึงเช้า ZZZZZ
รอยยิ้มและลิ่มเลือด Tropical rain forest เขาใหญ่ ตอนที่ 1
ก่อนที่จะตัดสินใจจัดทริปนี้ผมคิดอยู่นานหลายตลบ ว่าจะจัดดีหรือป่าวหนอ เพราะช่วงเวลาหลายเดือนจากนี้คือฤดูกาลของฝนฟ้า ขืนดื้อจัดไปก็คงจะไม่มีเพื่อนๆตอบรับกลับมาเป็นแน่แท้
บ้านเราเมืองเราอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร เมื่อเข้าเดือนหกฝนก็จะตกกระหน่ำจนถึงเดือนเก้าเดือนสิบ ทริปนี้อยู่ในเดือนเจ็ดพอดิบพอดี ซึ่งไม่ว่าผมจะจัดทริปไปที่แห่งไหนก็คงหนีไม่พ้นสายฝนอยู่ดี
ขอเล่าเมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมาที่เจ็ดคต ตอนสุดท้าย
หลังจากเดินทางออกจากทุ่งทานตะวัน พวกเราก็แวะทางอาหารเล็กน้อยก่อนเดินทางต่อไปยังจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้คือ Primo Posto del Khao Yai
ผมเห็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่อุทยานฯเขาใหญ่แวะมาที่นี่และถ่ายรูปไปโพสต์บนอินเทอร์เน็ตกัน ดูแล้วมันสวยแปลกตาดี ก็เลยลองแวะมาดูมั่ง เผื่อจะมีอะไรถูกใจ
และก็ไม่ผิดหวังครับ ที่นี่ดูสวยกว่าที่ผมคิดไว้ มีหลายคนบอกว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี่ แต่ทำไมผมนึกถึงแต่ตึกรามบ้านช่องในหนังเม็กซิกันก็ไม่รู้สินะ
ขอเล่าเมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมาที่เจ็ดคต 7
หลังจากเดินทางออกจากศูนย์ฯเจ็ดคต จุดหมายปลายทางที่เราจะเดินทางไปต่อคือทุ่งทานตะวันครับ
ทุ่งทานดอกตะวันมีอยู่มากมายในจังหวัดสระบุรี โดยเฉพาะตลอดเส้นทางที่จะวิ่งเข้าไปที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ซึ่งหากมาจากกรุงเทพฯนั่งรถมาทางถนนมิตรภาพ(ถนนที่จะไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังเส้นทางจะบอกว่าไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเราก็จะเจอดอกทานตะวันตลอดทางเลยล่ะครับ
จริงๆแล้วดอกทานตะวันเป็นพืชไร่ที่ชาวบ้านเค้าปลูกกันในช่วงฤดูหนาวกันอยู่แล้ว ด้าวเพราะความสวยงามของมันจึงมักจะมีหมู่นักท่องเที่ยวลงจากรถไปถ่ายรูปด้วยประจำ และจึงกลายมาเป็นประเพณีนิยมของคนทั่วไปที่ต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปและคนท้องถิ่นเองก็จะเกิดรายได้เข้าอีกทางครับ อันนี้ถือเป็นเรื่องดี เที่ยวไทยช่วยไทยครับ
ขอเล่าเมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมาที่เจ็ดคต 6
เช้าวันที่สองของทริป ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนตึง เนื่องจากเมื่อคืนเรานั่งซึบซับเอาบรรยากาศของศูนย์ฯเจ็ดคตดึกเกินไปหน่อย ก็แน่ล่ะครับ เรามีเวลากันแค่ 2 วันกะอีก 1 คืน ไหนเลยจะยอมให้เวลาผันผ่านโดยเปล่าประโยชน์
เช้าของวันนี้เป็นเช้าของฤดูหนาวที่ดูสวยงามมากๆอีกวันนึงของผม แม้จะลมแรงไปหน่อยแต่ในสายลมก็อัดแน่นไปด้วยความบริสุทธิ์สะอาดที่เจือจางไปด้วยกลิ่นของใบไม้และไอน้ำ ลมที่แรงบวกกับอากาศที่หนาวอยู่แล้วยิ่งทำให้คณะทริปของผมหนาวเป็นเท่าทวี
ขอเล่าเมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมาที่เจ็ดคต 5
ตกเย็นทุกคนก็ได้ทำภาระกิจส่วนตัวกันจะหมด อาบน้ำอาบท่า สบายใจไปตามๆกัน ยกเว้นผมกันนายกั้มที่ยังไม่ได้อาบน้ำ เหตุผลของกั้มคือเค้ามีอาการป่วยมาตั้งแต่ก่อนเดินทางจึงไม่สามารถอาบได้ ส่วนผม ผมยังสงสัยอยู่ว่า ลืมหรือว่าขี้เกี่ยจกันแน่ นั่งกินนั่งเล่นนั่งคุยไปเรื่อย ที่สุดก็ไม่ได้อาบน้ำจนได้
สาวๆนำทีมโดยน้องโลมาได้เตรียมอาหารการกินไว้ให้พวกเราแล้ว อ่อ วันนี้เรามีสุกี้รสเด็ดไม่แพ้MKด้วยนะ บวกกับความโหยหิวจากการเดินทางท่องเที่ยว พวกเราก็ซัดกันราบคาบไปตามฟอร์ม