วันนี้จะเป็นวันที่ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯเสียแล้วล่ะครับ ยังขาดอยู่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำและเป็นเป้าหมายสำคัญของการมาบึงกาฬในครั้งนี้ที่จะละเลยไปไม่ได้ นั่นก็คือ การรดน้ำกระดูกหรือการสรงน้ำอัฐิคุณยายของผม
Category Archives: เรื่องเล่ารายทาง
ปีใหม่ บึงกาฬ ตอนที่ 5
ท่ามกลางอากาศหนาว แสงแรกของวันก็ทำหน้าที่เป็นตัวเบิกทางให้เห็นถึงความงามของธรรมชาติรอบบริเวณวัดศรีบุญเรือง ตำบลชัยพร จังหวัดบึงกาฬ และแม้จะเป็นหกโมงเช้า แต่ดวงอาทิตย์เจ้าก็ยังคงไม่ยอมที่จะตื่นจากภวังค์ ซึ่งก็เป็นไปธรรมชาติของช่วงเหมันตฤดู
ปีใหม่ บึงกาฬ ตอนที่ 4
เย็นวันนี้พวกเราต้องเดินทางไป “วัดศรีบุญเรือง” ตำบลชัยพร เป็นที่ซึ่งหลวงลุงที่ป็นญาติผู้ใหญ่ของผมเป็นเจ้าอาวาสอยู่ วัดนี้อยู่ห่างจากตัวจังหวัดราวยี่สิบกว่ากิโลเห็นจะได้ เป็นวัดป่าที่ติดริมแม่น้ำโขงครับ หากท่านใดจะเดินทางทำบุญก็ดูจากแผนที่ด้านล่าง แต่เนื่องจากยังไม่มีใครเข้าไปปักหมุดใน Google Maps การค้นหาสถานที่จึงจะยังไม่เจอ ดังนั้นหากจะไปให้ถึงจุดหมายกันจริง ๆ ก็ให้ไปตั้งหลักที่ตำบลชัยพรก่อน จากนั้นก็ค่อยถามคนที่นั่นดูก็ได้ครับ เพราะจากตัวตำบลถึงวัดห่างกันไม่กี่กิโลครับ
ปีใหม่ บึงกาฬ ตอนที่ 3
ในเช้าวันแรกของปี ผม แม่และน้องสาว มีนัดกันออกไปใส่บาตรทำบุญปีใหม่ ซึ่งเป็นพิธีใส่บาตรทำบุญปีใหม่ร่วมกันของชาวบึงกาฬน่ะครับ ปกติแล้วที่นี่เค้าจะจัดกันทุกวันที่ 1 มกราคมของทุกปี สถานที่คือลานด้านหน้าที่ว่าการอำเภอ(เดิม) ติดริมแม่น้ำโขงพอดี ระยะทางจากบ้านถึงทีใส่บาตรก็ประมาณกิโลนิด ๆ เดินไปก็ไม่ไกลมากนัก และอากาศเช้านี้ก็ยังหนาวอยู่เหมือนเดิม การเดินจึงเป็นการออกกำลังและอบอุ่นร่างกายไปในตัวครับ
ปีใหม่ บึงกาฬ ตอนที่ 2
ไม่ได้มาอัพเดต Blog เสียตั้งนาน หยุดหลายวันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีครับภธรรมดาของคนอายุเริ่มเยอะ ก็มักจะขุดเอาเรื่องเก่า ๆ มาเล่าใหม่ให้ฟังครับ จากบทความ ปีใหม่ บึงกาฬ ตอนที่ 1 ก็ได้สาธยายไปพอสมควรเกี่ยวกับการมาเที่ยวที่ “จังหวัดบึงกาฬ” ในช่วงหน้าหนาว และแม้ตอนนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ผมก็เชื่อว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่คิดจะไปเที่ยวที่นั่นอย่างแน่นอนครับ
ในเย็นวันแรกของการมาเยี่ยมบ้านที่บึงกาฬ ผม แม่ น้าสาว และน้าเขย นึกอยากจะหาอะไรทานกันริมแม่น้ำโขง เพราะไหน ๆ ก็มาบึงกาฬทั้งที ไม่ได้รับประทานอาหารในบรรยากาศอย่างนี้ ก็คงไม่ถึงซะเท่าไร
ปีใหม่ บึงกาฬ ตอนที่ 1
ตกปากรับคำไว้ตั้งแต่กลางปีว่าจะพาแม่กลับไปเยี่ยมบึงกาฬบ้านเกิด กอปรกับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้กลับไปพบปะญาติสนิทมิตรสหายที่ไม่ได้เจอะเจอกันมานมนาน ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นความต้องการที่อยากจะกลับบึงกาฬในช่วงปลายปี เพื่อจะสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่เคยยลครั้งยังเยาว์ ซึ่งไม่ได้รู้สึกแบบนั้นมานานมากแล้ว อยากจะได้ความรู้สึกที่แสนจะอบอุ่นด้วยไมตรีจิตจากรอยยิ้มของคนบึงกาฬ ในฐานะที่เป็นอำเภอก่อนที่จะเลื่อนขั้นไปเป็นจังหวัดดูอีกสักครั้งหนึ่ง เอ จะว่าไปอันตัวเราก็คงหนีไม่พ้นพลังอำนาจของความอยากสินะ ^ ^ เหอ เหอ เหอ
บั้งไฟพญานาค ปรากฎการณ์ที่ยังรอการพิสูจน์
บทความดีๆ จากปี 2002
(ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ)
เห็นท่าน Webmaster จั่วหัวไว้ ผมก็เลยแห่ตามด้วยซะเลย เพราะงานที่ทำก็เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขง และพึ่งผ่านเทศกาลชมบั้งไฟพญานาคไปหมาดๆเมื่อวานนี้(21 ต.ค.45) ซึ่งขึ้นมา ประมาณหลายร้อยดวง ส่วนหนังเรื่อง 15ค่ำเดือน 11 ผมก็ได้ไปดูมาแล้วเหมือนกัน เป็นหนังไทยที่ดีมากเลย ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะเป็นญาติกับทีมงานของหับ โห้ หิ้น ซึ่งเป็นทีมสร้าง และที่มีหลายคนบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นการลบหลู่ความเชื่อของคน ถึงกับมีความพยายามจะแบนหนังเรื่องนี้นั้น เท่าที่ดูมาก็ไม่เห็นมีการลบหลู่อะไรทั้งสิ้น เป็นหนังที่เน้นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา และส่งเสริมรักษาสภาพแวดล้อม อันนี้ต้องไปพิสูจน์
นกเอ๋ยนกกระจอกที่ไม่กระจอก
บทความดีๆ จากปี 2002
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมวันนี้ผมมาแปลกๆ กวนๆ ยังไงไม่รู้ อยากจะบอกว่าผมรู้สึกดีใจแบบบอกไม่ถูกที่พบนกชนิดนี้ แบบว่าบังเอิญครับเพราะเป็นครั้งที่ 3 ที่พบนกชนิดนี้ทำรังโดยที่พบในสถานที่ต่างกัน สงสัยแล้วใช่ไหมหล่ะครับ….อะตามมาผมจะเล่าให้ฟัง
ลูกอะไรหว่า จากป่ามาเป็นไม้ประดับ
ไข่ปริศนาในรังน้อย ไข่นกอะไรกันนะ
บทความดีๆ จากปี 2002
เย็นวันหนึ่งหลังจากที่ผมเดินทางกลับมาจากออกพื้นที่ พี่ชายตัวดีของผมโทรมาบอกว่าเจอรังนกอะไรไม่รู้มาทำรังที่ร้าน (พอดีผมมีร้านขายต้นไม้มีทั้งไม้ดอก ไม้ผล สมุนไพร และอื่นๆ ผมไม่ได้ค่าโฆษณานะwebmaster ) ผมก็เลยว่านกอะไรเหรอ ที่มาทำรังอยู่ในนั้น พี่ชายก็บอกมาทางโทรศัพท์ว่า “ไม่รู้ต้องเอ็งต้องมาดูเอง” ด้วยความสงสัยเช้าวันรุ่งขึ้นผมพอเลิกงานก็นั่งรถสองแถวไปที่ร้าน